Final Buddhist กับ 4 สังเวชียสถาน
อัพเดทล่าสุด: 2 พ.ค. 2025
12 ผู้เข้าชม
เป็นอีกเส้นทางที่พี่ตีนโตอยากแชร์ เนื่องจากมีคนไทยเราสนใจกันค่อนข้างมากในช่วง 1-2 ปีหลังมานี้ เพราะนอกจากได้เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แล้ว สำหรับชาวพุธคงเหมือนเราได้ตามรอยพระพุทธเจ้า ไปยังที่สำคัญต่างๆ
ไม่ขอบรรยายถึงประวัติในแต่ละที่กันมากแล้วกันเนอะ เนื่องจากมีหลายเพจ หลายโพสต์คุณภาพของหลายๆที่เค้าได้ลงข้อมูลกันไปพอสมควรแล้ว ขอมาแชร์ว่าถ้าเป็นลักษณะโปรแกรมทัวร์ 4 สังเวชนียสถาน เค้าจะมีไปกันแบบไหน เตรียมตัวอย่างไร วีซ่าต้องเตรียมอย่างไรกันบ้างง ฮึบๆ
ในศัพท์ไกด์ แกจะมีเรียกย่อเส้นทางนี้กันว่า 4 สังเว ประเทศที่เกี่ยวข้องมี 2 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย และ เนปาล เหมาะกับการไปช่วงเดือน ตุลา - มีนา (หรือจริงๆปลายกุมภา) ของทุกปี เพราะว่าเป็นช่วงหน้าหนาว จริงๆเราจะไปช่วงอื่นก็ได้เช่นกัน แต่ไม่แนะนำเลย เนื่องจากอากาศบ้านเค้านั้น ร้อนกว่าบ้านเราโขข
และอีกเหตุผลหลัก คือสายการบินจะเปิดให้บินตรงไปลงเมือง พุธคยา แค่ช่วงเดือน 10 ถึง 3 เท่านั้น เดือนอื่นๆจะไปลงที่เมืองอื่น อย่างเดลี หรือ สารนาถ เป็นต้น ซึ่งจะต้องต่อรถไปเมืองพุธคยา อีกประมาณ 5-6 ชม. (จากสารนาถนะ ถ้าเดลี จะ 10+ ชม.กันเลย) ทำให้สิ่งที่ต้องคำนึงคือบวกเสียเวลา และความเหนื่อย (แต่ราคาถูกกว่าช่วงเดือน 10-3 หล่ะนะ)
สายการบินที่มีไปก็ไม่ต้องห่วงถึงความลำบาก เพราะการบินไทย (TG) มีไฟลท์ไปลงหลักๆบินสบายถึงคยากันได้โลด สายอื่นๆก็มีเช่นกัน อย่าง แอร์ เอเชีย (FD)(บินตรง), หรือ IndiGo Airlines (6E) ของอินเดีย แต่ว่าจะต้องไปลงเมืองเดลี เพื่อต่อเครื่องไปพุธคยาอีกที (ถูกกว่าการบินไทย)
สำหรับ ทัวร์สังเวชนียสถาน จะจัดบินตรง ลงพุธคยา สายการบิน TG เป็นหลัก มีตั้งแต่วันน้อย 5 วัน 4 คืน แต่จะไปได้แค่ 2 สังเวชียสถาน แต่ถ้าไปครบ 4 สังเว จะใช้เวลาประมาณ 8 วัน 7 คืน เก็บครบ เที่ยวที่อื่นเพิ่มเติมตามเส้นทางด้วย ตามรอยประวัติศาสตร์เพิ่มเติมควบคู่กันไป จริงๆอยากแนะนำว่าถ้าเราไปทั้งที ไปให้ครบ 4 สังเวเลย จะได้อิ่มบุญกันเต็มที่
ในส่วนเส้นทางของโปรแกรมทัวร์ ลอง recap มาให้ดู ก็จะไปกันประมาณนี้ ไม่หนีกันนัก
วันที่ 1 - สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินพุทธคยา - สังเวชนียสถานแห่งที่ 1 ต้นพระศรีมหาโพธิ์ องค์พระมหาเจดีย์พุทธคยา
วันที่ 2 - ราชคฤห์ (Rajgir) - ขึ้นชมเขาคิชกูฎ (Griddhakuta, Vulture's Peak) - นาลันทา (Nalanda) - เมืองปัตนะ (Patna)
วันที่ 3 - เมืองไวสาลี - ป่ามหาวัน - กุสินารา - วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์
วันที่ 4 - สังเวชนียสถานแห่งที่ 2 สาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน - นมัสการมกุฎพันธเจดีย์ (Makutabandana Stupa) - ลุมพินี (เนปาล)
วันที่ 5 - สังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สถานที่ประสูติ - นมัสการมหามายาเทวีวิหาร (The Mahamaya Devi Temple) - วัดไทยลุมพินี - เมืองสาวัตถี (Sravasti)
วันที่ 6 - วัดเชตวันมหาวิหาร - ชม บ้านองคุลีมาล - เมืองพาราณสี (Varanasi)
วันที่ 7 - ล่องเรือแม่น้ำคงคา - สังเวชนียสถานแห่งที่ 4 สารนาถ สถานที่แสดงปฐมเทศนา อิสิปตนมฤคทายวัน - พิพิธภัณฑ์สารนาถ - เดินทางกลับสู่ พุทธคยา
วันที่ 8 - กราบสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ และ พระพุทธเมตตา อีกครั้ง - ชม บ้านนางสุชาดา - สนามบินพุทธคยา - สนามบินสุวรรณภูมิ
4 สังเวชนียสถาน อินเดีย-เนปาล พระเอกก็คือ 4 ที่หลักนี้ สโคปสั้นๆก็คือ
ลุมพินี (Lumbini): สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า (เนปาล)
พุทธคยา (Bodh Gaya): สถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ (อินเดีย)
สารนาถ (Sarnath): สถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา อยู่ใกล้เมืองพาราณสี (อินเดีย)
กุสินารา (Kushinagar): สถานที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน (อินเดีย)
จะเห็นได้ว่าเราเข้าหลักๆ 2 ประเทศ การทำวีซ่านั้นก็ไม่ยาก ตอนนี้ทางอินเดีย เค้าฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย อยู่ได้ 30 วัน (อัพเดทของปี 2568 ปีหลังจากนี้อาจจะต้องเช็คกันอีกที เพราะมีเปลี่ยนกันนิดหน่อยๆอยู่ตลอด) ทำ e-Visa ออนไลน์ได้เลย สำหรับเอกสารวีซ่า อินเดีย ที่ต้องใช้ก็จะมี
- รูปถ่าย 2x2 นิ้ว ถ่ายไม่เกิน 3 เดือน พื้นหลังสีขาว ไม่สวมแว่นตา หรือเครื่องประดับ ใส่ชุดสุภาพ ไม่ใส่ชุดราชการ หรือเครื่องแบบบริษัท เห็นใบหูชัดเจน
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- *กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้สำเนาสูติบัตร และบัตรประชาชน
- สำเนาวีซ่าที่เคยเดินทางไปประเทศอินเดีย (ถ้ามี)
- ฟอร์มกรอกข้อมูลวีซ่า อินเดีย
ในส่วนของ วีซ่า ประเทศเนปาล ใช้อะไรบ้าง หากเราไปคู่กันกับอินเดียอยู่แล้ว จะต้องส่ง passport เล่มจริงมาเพื่อใช้วีซ่าติดเล่มอีกที ใช้เวลาแค่ 2-3 วันก็เรียบร้อย หรือจริงๆแล้ว สามารถทำเป็น visa on arrival หน้าด่าน ตม. ได้เลยเหมือนกัน แต่แนะนำว่าทำก่อน จะประหยัดเวลาต่อแถว และรวดเร็วกว่า (ถ้าไปกับทัวร์ เค้าจะแนะนำทำก่อนซะส่วนใหญ่ เพราะคนในกรุ้ปหลายคน และไม่ต้องรอฮับ)
เส้นทางนี้ เค้าก็มีอีกชื่อว่า แสวงบุญอินเดีย อีกหนึ่งสิ่งที่อยากเล่าสู่กันฟัง และหลายคนเป็นกังวล คือเรื่องอาหาร และห้องน้ำ...
จะบอกว่ากรณีไปกับทัวร์ จะมีอาหารไทยเสริมแทบทุกมื้อ โดยไกด์เค้าจะมีเตรียมน้ำพริก, พริกน้ำปลา, แม็กกี้, มาม่า etc...ที่เป็นของหลักของไทยเรา หรือเตรียมกับทางฝั่งอินเดียเรื่องวัตถุดิบ เผื่อไปทำเสริมให้เราอยู่แล้ว (ไข่เจียว, ต้มยำ เป็นต้น) สำหรับคนที่ไม่ชอบทานอาหารบ้านเค้าจริงๆ หรือเริ่มเลี่ยนกันแล้วในวันท้ายๆ ฮ่าๆ
*trick เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เล่าสู่กันฟังอีกเรื่อง คือน้ำเปล่า พี่ตีนโตแนะนำกินแบบในขวดใหม่ๆ ตามร้านสะดวกซื้อ (ถ้าไปกับทัวร์ จะมีแจกบนรถอยู่แล้วฮะ) และเตรียมแก้วเยติส่วนตัวของเราไปเองด้วยจะดีมาก เนื่องจากต้องยอมรับเรื่องความสะอาดของบ้านเค้าว่ายังไม่ค่อยดีนัก ไม่ควรกินน้ำนอกขวดกันเลยหล่ะ เพราะเคยมีเคสท้องร่วง ท้องเสียกันมาแล้วว ส่วนถ้าท่านไหนอยากลองเพิ่มความแข็งแกร่ง และภูมิคุ้มกัน ก็อาจจะลองกันได้ ฮ่าๆๆ
การเดินทางจากสถานที่นึง ไปยังอีกที นั่งรถนานไหมนะ...จะใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. ซะส่วนใหญ่ได้ฮะ บางที่อาจจะไม่ไกลกันมากก็มี ห้องน้ำระหว่างทาง จะมีทั้งแบบนั่งยอง และปกติ เพราะอยู่นอกเมืองศิวิไลหลัก ทำใจกันไว้นิดนึง (แต่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนนะ) แต่ทั้งนี้ กรณีไปทัวร์ เค้าจะพยายามแวะในจุดที่โอเคที่สุดตรงนั้นให้แล้วอีกทีฮับ
ทัวร์แสวงบุญ อินเดีย เนปาล เค้าจะนิมนต์พระวิทยากร (ที่อยู่ฝั่งอินเดีย พูดภาษาไทยได้) อยู่กับเราตั้งแต่วันแรก ถึงวันสุดท้าย คอยบรรยาย และพาสวดมนต์ นั่งสมาธิ ซึ่งจะมีเกือบทุกวัน ในหลายสถานที่กันเลย
การแต่งตัว แนะนำว่าเตรียมชุดขาวมาใส่เป็นหลักจะเหมาะกว่าโลด
โรงแรมที่พัก อินเดียเดี๋ยวนี้จะพัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อน หรืออย่างน้อยๆถ้าไปกับทัวร์ จะพยายามคัดที่สะอาด ปลอดภัย กรณีเราไปเอง แนะนำดูรีวิวก่อนทำจองดีๆก็หายห่วง
To summary...หวังว่าพอจะเป็นอีกหนึ่งข้อมูล ให้เราได้เตรียมตัว คลายสงสัยกันได้หลายเปราะไปบ้าง แต่อาจจะมีตกหล่น ไม่ครอบคลุม สามารถสอบถามเพิ่มเติมกันได้ตลอด ว่าจะเขียนไม่ยาว ก็อดไม่ได้เหมือนเคยย
ไม่ขอบรรยายถึงประวัติในแต่ละที่กันมากแล้วกันเนอะ เนื่องจากมีหลายเพจ หลายโพสต์คุณภาพของหลายๆที่เค้าได้ลงข้อมูลกันไปพอสมควรแล้ว ขอมาแชร์ว่าถ้าเป็นลักษณะโปรแกรมทัวร์ 4 สังเวชนียสถาน เค้าจะมีไปกันแบบไหน เตรียมตัวอย่างไร วีซ่าต้องเตรียมอย่างไรกันบ้างง ฮึบๆ
ในศัพท์ไกด์ แกจะมีเรียกย่อเส้นทางนี้กันว่า 4 สังเว ประเทศที่เกี่ยวข้องมี 2 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย และ เนปาล เหมาะกับการไปช่วงเดือน ตุลา - มีนา (หรือจริงๆปลายกุมภา) ของทุกปี เพราะว่าเป็นช่วงหน้าหนาว จริงๆเราจะไปช่วงอื่นก็ได้เช่นกัน แต่ไม่แนะนำเลย เนื่องจากอากาศบ้านเค้านั้น ร้อนกว่าบ้านเราโขข
และอีกเหตุผลหลัก คือสายการบินจะเปิดให้บินตรงไปลงเมือง พุธคยา แค่ช่วงเดือน 10 ถึง 3 เท่านั้น เดือนอื่นๆจะไปลงที่เมืองอื่น อย่างเดลี หรือ สารนาถ เป็นต้น ซึ่งจะต้องต่อรถไปเมืองพุธคยา อีกประมาณ 5-6 ชม. (จากสารนาถนะ ถ้าเดลี จะ 10+ ชม.กันเลย) ทำให้สิ่งที่ต้องคำนึงคือบวกเสียเวลา และความเหนื่อย (แต่ราคาถูกกว่าช่วงเดือน 10-3 หล่ะนะ)
สายการบินที่มีไปก็ไม่ต้องห่วงถึงความลำบาก เพราะการบินไทย (TG) มีไฟลท์ไปลงหลักๆบินสบายถึงคยากันได้โลด สายอื่นๆก็มีเช่นกัน อย่าง แอร์ เอเชีย (FD)(บินตรง), หรือ IndiGo Airlines (6E) ของอินเดีย แต่ว่าจะต้องไปลงเมืองเดลี เพื่อต่อเครื่องไปพุธคยาอีกที (ถูกกว่าการบินไทย)
สำหรับ ทัวร์สังเวชนียสถาน จะจัดบินตรง ลงพุธคยา สายการบิน TG เป็นหลัก มีตั้งแต่วันน้อย 5 วัน 4 คืน แต่จะไปได้แค่ 2 สังเวชียสถาน แต่ถ้าไปครบ 4 สังเว จะใช้เวลาประมาณ 8 วัน 7 คืน เก็บครบ เที่ยวที่อื่นเพิ่มเติมตามเส้นทางด้วย ตามรอยประวัติศาสตร์เพิ่มเติมควบคู่กันไป จริงๆอยากแนะนำว่าถ้าเราไปทั้งที ไปให้ครบ 4 สังเวเลย จะได้อิ่มบุญกันเต็มที่
ในส่วนเส้นทางของโปรแกรมทัวร์ ลอง recap มาให้ดู ก็จะไปกันประมาณนี้ ไม่หนีกันนัก
วันที่ 1 - สนามบินสุวรรณภูมิ - สนามบินพุทธคยา - สังเวชนียสถานแห่งที่ 1 ต้นพระศรีมหาโพธิ์ องค์พระมหาเจดีย์พุทธคยา
วันที่ 2 - ราชคฤห์ (Rajgir) - ขึ้นชมเขาคิชกูฎ (Griddhakuta, Vulture's Peak) - นาลันทา (Nalanda) - เมืองปัตนะ (Patna)
วันที่ 3 - เมืองไวสาลี - ป่ามหาวัน - กุสินารา - วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์
วันที่ 4 - สังเวชนียสถานแห่งที่ 2 สาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน - นมัสการมกุฎพันธเจดีย์ (Makutabandana Stupa) - ลุมพินี (เนปาล)
วันที่ 5 - สังเวชนียสถานแห่งที่ 3 สถานที่ประสูติ - นมัสการมหามายาเทวีวิหาร (The Mahamaya Devi Temple) - วัดไทยลุมพินี - เมืองสาวัตถี (Sravasti)
วันที่ 6 - วัดเชตวันมหาวิหาร - ชม บ้านองคุลีมาล - เมืองพาราณสี (Varanasi)
วันที่ 7 - ล่องเรือแม่น้ำคงคา - สังเวชนียสถานแห่งที่ 4 สารนาถ สถานที่แสดงปฐมเทศนา อิสิปตนมฤคทายวัน - พิพิธภัณฑ์สารนาถ - เดินทางกลับสู่ พุทธคยา
วันที่ 8 - กราบสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ และ พระพุทธเมตตา อีกครั้ง - ชม บ้านนางสุชาดา - สนามบินพุทธคยา - สนามบินสุวรรณภูมิ
4 สังเวชนียสถาน อินเดีย-เนปาล พระเอกก็คือ 4 ที่หลักนี้ สโคปสั้นๆก็คือ
ลุมพินี (Lumbini): สถานที่ประสูติของพระพุทธเจ้า (เนปาล)
พุทธคยา (Bodh Gaya): สถานที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ (อินเดีย)
สารนาถ (Sarnath): สถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา อยู่ใกล้เมืองพาราณสี (อินเดีย)
กุสินารา (Kushinagar): สถานที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน (อินเดีย)
จะเห็นได้ว่าเราเข้าหลักๆ 2 ประเทศ การทำวีซ่านั้นก็ไม่ยาก ตอนนี้ทางอินเดีย เค้าฟรีวีซ่าสำหรับคนไทย อยู่ได้ 30 วัน (อัพเดทของปี 2568 ปีหลังจากนี้อาจจะต้องเช็คกันอีกที เพราะมีเปลี่ยนกันนิดหน่อยๆอยู่ตลอด) ทำ e-Visa ออนไลน์ได้เลย สำหรับเอกสารวีซ่า อินเดีย ที่ต้องใช้ก็จะมี
- รูปถ่าย 2x2 นิ้ว ถ่ายไม่เกิน 3 เดือน พื้นหลังสีขาว ไม่สวมแว่นตา หรือเครื่องประดับ ใส่ชุดสุภาพ ไม่ใส่ชุดราชการ หรือเครื่องแบบบริษัท เห็นใบหูชัดเจน
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- *กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้สำเนาสูติบัตร และบัตรประชาชน
- สำเนาวีซ่าที่เคยเดินทางไปประเทศอินเดีย (ถ้ามี)
- ฟอร์มกรอกข้อมูลวีซ่า อินเดีย
ในส่วนของ วีซ่า ประเทศเนปาล ใช้อะไรบ้าง หากเราไปคู่กันกับอินเดียอยู่แล้ว จะต้องส่ง passport เล่มจริงมาเพื่อใช้วีซ่าติดเล่มอีกที ใช้เวลาแค่ 2-3 วันก็เรียบร้อย หรือจริงๆแล้ว สามารถทำเป็น visa on arrival หน้าด่าน ตม. ได้เลยเหมือนกัน แต่แนะนำว่าทำก่อน จะประหยัดเวลาต่อแถว และรวดเร็วกว่า (ถ้าไปกับทัวร์ เค้าจะแนะนำทำก่อนซะส่วนใหญ่ เพราะคนในกรุ้ปหลายคน และไม่ต้องรอฮับ)
เส้นทางนี้ เค้าก็มีอีกชื่อว่า แสวงบุญอินเดีย อีกหนึ่งสิ่งที่อยากเล่าสู่กันฟัง และหลายคนเป็นกังวล คือเรื่องอาหาร และห้องน้ำ...
จะบอกว่ากรณีไปกับทัวร์ จะมีอาหารไทยเสริมแทบทุกมื้อ โดยไกด์เค้าจะมีเตรียมน้ำพริก, พริกน้ำปลา, แม็กกี้, มาม่า etc...ที่เป็นของหลักของไทยเรา หรือเตรียมกับทางฝั่งอินเดียเรื่องวัตถุดิบ เผื่อไปทำเสริมให้เราอยู่แล้ว (ไข่เจียว, ต้มยำ เป็นต้น) สำหรับคนที่ไม่ชอบทานอาหารบ้านเค้าจริงๆ หรือเริ่มเลี่ยนกันแล้วในวันท้ายๆ ฮ่าๆ
*trick เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เล่าสู่กันฟังอีกเรื่อง คือน้ำเปล่า พี่ตีนโตแนะนำกินแบบในขวดใหม่ๆ ตามร้านสะดวกซื้อ (ถ้าไปกับทัวร์ จะมีแจกบนรถอยู่แล้วฮะ) และเตรียมแก้วเยติส่วนตัวของเราไปเองด้วยจะดีมาก เนื่องจากต้องยอมรับเรื่องความสะอาดของบ้านเค้าว่ายังไม่ค่อยดีนัก ไม่ควรกินน้ำนอกขวดกันเลยหล่ะ เพราะเคยมีเคสท้องร่วง ท้องเสียกันมาแล้วว ส่วนถ้าท่านไหนอยากลองเพิ่มความแข็งแกร่ง และภูมิคุ้มกัน ก็อาจจะลองกันได้ ฮ่าๆๆ
การเดินทางจากสถานที่นึง ไปยังอีกที นั่งรถนานไหมนะ...จะใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. ซะส่วนใหญ่ได้ฮะ บางที่อาจจะไม่ไกลกันมากก็มี ห้องน้ำระหว่างทาง จะมีทั้งแบบนั่งยอง และปกติ เพราะอยู่นอกเมืองศิวิไลหลัก ทำใจกันไว้นิดนึง (แต่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนนะ) แต่ทั้งนี้ กรณีไปทัวร์ เค้าจะพยายามแวะในจุดที่โอเคที่สุดตรงนั้นให้แล้วอีกทีฮับ
ทัวร์แสวงบุญ อินเดีย เนปาล เค้าจะนิมนต์พระวิทยากร (ที่อยู่ฝั่งอินเดีย พูดภาษาไทยได้) อยู่กับเราตั้งแต่วันแรก ถึงวันสุดท้าย คอยบรรยาย และพาสวดมนต์ นั่งสมาธิ ซึ่งจะมีเกือบทุกวัน ในหลายสถานที่กันเลย
การแต่งตัว แนะนำว่าเตรียมชุดขาวมาใส่เป็นหลักจะเหมาะกว่าโลด
โรงแรมที่พัก อินเดียเดี๋ยวนี้จะพัฒนาขึ้นกว่าแต่ก่อน หรืออย่างน้อยๆถ้าไปกับทัวร์ จะพยายามคัดที่สะอาด ปลอดภัย กรณีเราไปเอง แนะนำดูรีวิวก่อนทำจองดีๆก็หายห่วง
To summary...หวังว่าพอจะเป็นอีกหนึ่งข้อมูล ให้เราได้เตรียมตัว คลายสงสัยกันได้หลายเปราะไปบ้าง แต่อาจจะมีตกหล่น ไม่ครอบคลุม สามารถสอบถามเพิ่มเติมกันได้ตลอด ว่าจะเขียนไม่ยาว ก็อดไม่ได้เหมือนเคยย
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
หนึ่งในคำถามยอดฮิต จากเหล่านักผจญภัย ก็คือ ดูแสงเหนือ ที่ไหนสวยที่สุด...ดูประเทศไหนดี ดูที่ไหนกันได้บ้าง ขอมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจกันฮับ
28 เม.ย. 2025